ทราบถึงอีกด้านของ บุหรี่ไฟฟ้า ที่ถึงแม้จะส่งผลร้ายต่อร่างกาย แต่ก็สามารถรักษาโรคบางโรคได้เช่นกัน อีกทั้งยังปลอดภัยกว่า บุหรี่มวน ถึง 95%
บุหรี่ไฟฟ้า นั้นถูกผลิตขึ้นมา เพื่อใช้ในการให้นิโคตินทดแทน บุหรี่ธรรมดา ซึ่งภายในบุหรี่ไฟฟ้า จะมีส่วนประกอบหลักที่ทำให้เกิดการเสพติดคือ นิโคติน จึงทำให้ทางการไทย ประกาศให้เป็น “สิ่งของต้องห้าม” ที่ไม่สามารถทำให้เลิกบุหรี่ได้จริง แถมยังเพิ่มจำนวนผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้ามากขึ้นอีก
ต่อมาได้มีกลุ่มคนแสดงความคิดเห็นว่า สังคมไทยยังขาดความเข้าใจเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า เพราะ บุหรี่ไฟฟ้านั้นมีหลายรูปแบบ อาทิ บุหรี่ไฟฟ้าที่ใช้การเติมน้ำยาที่มีสารนิโคติน ผู้สูบจะได้รับ ไอ และควันในปริมาณที่มาก อีกทั้งอาจเกิดการระเบิดระหว่างการใช้งานได้, บุหรี่ไฟฟ้า แบบ pod อย่าง RELX Nord Fetch Vladdin ที่ให้ ไอและควันที่น้อย แต่ได้ปริมาณนิโคตินที่เพียงพอต่อร่างกาย อีกทั้งไม่เกิดอันตรายระหว่างการใช้งาน และบุหรี่แบบแห้ง ที่มีแต่กลิ่น ไม่มีควัน
ไขข้อข้องใจ ของผู้เสียชีวิตจากบุหรี่ไฟฟ้าในต่างประเทศ
คุณหมอสมชัย ได้กล่าวว่า บุหรี่ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ มีสารหลักๆ ประกอบอยู่ 4 ชนิด ได้แก่ นิโคติด, โพรไพลีนไกลคอล, กลีเซอรีน และสารแต่งกลิ่น ซึ่งมีสารนิโคตินเพียงชนิดเดียวที่ทำให้ผู้คนเกิดการเสพติด และก่อให้เกิดอันตราย ในทางกลับการภายในตัว บุหรี่มวน กลับมีสารที่ก่อให้เกิดอันตรายมากกว่า 1000 ชนิด
ส่วนที่มีการรายงานพบผู้เสียชีวิตจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในต่างประเทศ เมื่อมีการตรวจสอบรายละเอียดพบว่า “ผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่เสียชีวิต มีการนำสิ่งอื่นๆ มาผสมเป็นน้ำยา เช่น วิตามินอี น้ำมันกัญชา ฯลฯ” ซึ่งภายในบุหรี่ไฟฟ้าที่ได้รับมาตรฐานจากโรงงาน ยังไม่พบอันตรายที่ว่านี้ในผู้ใช้
เพราะเหตุใด บุหรี่ไฟฟ้า ถึงดีกว่า บุหรี่มวน
ถึงแม้บุหรี่ไฟฟ้าจะผิดกฎหมาย และมีสารที่อันตรายต่อร่างกาย แต่ก็มีคนไทยที่ยังใช้บุหรี่ไฟฟ้าอยู่จำนวนมาก ซึ่งข้อดีของบุหรี่ไฟฟ้า ก็คือ ปลอดภัยกว่าบุหรี่มวนถึง 95%, ไม่มีสารทาร์(Tar) ที่เกิดจากกระบวนการเผาไหม้ และเป็นต้นเหตุของโรคมะเร็งปอด, ไม่ส่งกลิ่นเหม็น, ได้รับนิโคตินที่เพียงพอ ทำให้ไม่เกิดผลข้างเคียงจากการขาดนิโคติน และยังทำให้ผู้สูบหลายรายสามารถเลิกบุหรี่ได้จริง
เพราะภายในบุหรี่ไฟฟ้านั้น ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อกำจัดสารต่างๆ ที่เป็นอันตรายจากในตัวบุหรี่ให้เหลือเพียงแค่นิโคตินเท่านั้น ซึ่งเป็นผลดีอย่างมากสำหรับผู้คนที่เลิกบุหรี่ปกติ และหันมาใช้บุหรี่ไฟฟ้าแทน แต่ทางสังคมไทยกลับมีอคติกับบุหรี่ “เพียงเห็นชื่อว่าบุหรี่ ก็จะห้ามจะแบนอย่างเดียว” โดยเฉพาะกลุ่มเครือข่ายที่เคลื่อนไหว เฝ้าระวังภัยยาสูบ “ไม่ยอมมองความจริงอีกด้าน” ว่าในบางแง่มุมก็ยังมีประโยชน์อยู่
นิโคติน มีแต่โทษจริงหรือ?
คุณหมอสมชัย ได้อธิบายต่อไปว่า นิโคติน เป็นสารที่ทำให้เกิดการเสพติด และยังก่อให้เกิดโรคมะเร็ง และโรคทางเดินหายใจ แต่กับสามารถป้องกัน โรคพาร์กินสัน ได้ ซึ่งสารนิโคตินจะไปกระตุ้นเซลล์สมองทำให้ไม่เกิดโรคพาร์กินสัน
บุหรี่ไฟฟ้าควรเป็นหนึ่งในทางเลือกในการเลิกบุหรี่ ด้วยการทำงานที่คล้ายคลึงกันกับ บุหรี่มวน แต่ให้ความปลอดภัยที่มากกว่า และยังสามารถช่วยป้องการโรคพาร์กินสันได้อีกด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม บุหรี่ไฟฟ้าก็ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันในด้านข้อดีและข้อเสีย และยังคงผิดกฎหมาย ซึ่งควรมี ”การผ่อนผันให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นเพียงสินค้าควบคุมการใช้” เพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้สูบบุหรี่ที่ต้องการเลิกแต่ไม่สามารถหยุดรับนิโคตินได้ทันที จะเป็นทางออกที่ดีกับทุกฝ่ายกว่าหรือเปล่า? แต่ในท้ายที่สุดก็ขึ้นอยู่กับว่ารัฐไทยจะจัดการกับบุหรี่ไฟฟ้าอย่างไร เพื่อหาทางออกให้ได้อย่างเหมาะสมกับทุกฝ่าย
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก:
https://www.ryt9.com/s/nnd/3063240